วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมเสมาสัมพันธ์ สพป.มุกดาหาร
นายวรรณสิทธิ์ คำเพราะ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามุกดาหาร มอบหมายให้ นายภาส ไชยมี รอง ผอ.สพป.มุกดาหาร นำคณะผู้อำนวยการกลุ่ม/หน่วย และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม "การประชุมสร้างความเข้าใจการติดตาม ประเมินผลการบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566" ผ่านช่องทางออนไลน์ Zoom Meeting โดยมี นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นประธานเปิดการประชุมและมอบนโยบาย
ซึ่ง นายอัมพร พินะสา ได้มอบนโยบายการติดตาม ประเมินผลฯ ของ สพฐ. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ดังนี้
ใช้แผนเป็นเครื่องมือในการดำเนินงานของสำนักงานเขตพื้นที่
หลักการที่ 1 คือ ใช้กรอบแนวคิดของ PMQA เราจะมีกลไกในการที่จะขับเคลื่อน โดยเอานโยบายของ สพฐ. 4 เรื่อง ทั้งนโยบายเร่งด่วน สพฐ. , แผนปฏิบัติการ , มาตรฐานเขตฯ และร่วมกับนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ เข้าไปอยู่ในกระบวนการออกแบบและวางแผน ภายใต้กรอบใหญ่ของ PMQA จึงจะทำให้มีผลของการประเมินที่จะเอามาใช้ วันนี้เราจึงมาคุยกันเรื่องเครื่องมือที่จะใช้ในการประเมิน และตัวชี้วัดที่จะใช้ในการครอบคลุมทั้ง 4 เรื่อง จึงจะออกมาเป็นผลผลิตที่ตอบโจทย์ของการบริหารเขตพื้นที่ สุดท้ายแล้วเครื่องมือตัวนี้ไม่ต้องการให้ต่างคนต่างทำ ควรอยู่ในชุดเดียวกันเพราะประเมินทั้งระบบร่วมกัน สุดท้ายเราเอาผลตัวนี้ไปประเมินในหลายเรื่องด้วยกัน เช่น 1) ประเมินประสิทธิภาพเขตพื้นที่ 2) ประเมินเงินเดือนของ ผอ.สพท. 3) การจัดสรรงบประมาณให้เขตพื้นที่ 4) เกณฑ์ PA ที่ใช้ประเมิน ผอ.สพท. โดยเครื่องมือตัวเดียวกัน ซึ่งในการดำเนินงานการจัดทำแผนของเขตพื้นที่นั้น ต้องมีเป้าหมาย แม้นโยบายเหมือนกันแต่สภาพบริบทปัญหาของแต่ละเขตไม่เหมือนกัน การกำหนดเป้าหมายก็ย่อมไม่เหมือนกัน แต่สุดท้ายแล้วทุกเขตจะมีการพัฒนาไปอย่างไร กลยุทธไหน หรือบทบาทไหนสิ่งไหนที่จะทำ จะไปเขียนในเกณฑ์ท้าทายในการเป็นข้อตกลงกับเลขาธิการ อันนี้คือบทบาทของ ผอ.สพท.
อยากให้ทบทวนดูผลการประเมินที่ผ่านมา
ซึ่งจากผลการประเมินที่ผ่านมา จะมี 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ 1) ประเมินแล้วมีผลค่าคะแนนประสิทธิภาพสูงขึ้น 2) ผลการประเมินมีค่าเท่าเดิม 3) มีค่าคะแนนหรือประสิทธิภาพต่ำลง จึงอยากให้ได้ทบทวนตรงนี้
วิธีการประเมิน
แต่อย่างไรก็ตามวิธีการประเมิน นอกจากกรอกข้อมูลจากฝ่ายปฏิบัติอย่างเดียวคงไม่ได้ข้อมูลเชิงคุณภาพที่ลึกมากนัก อาจเพิ่มวิธีการประเมิน เช่น 1) ในรอบที่ 1 เมื่อคณะกรอกข้อมูลแล้วก็ทำการประเมินแบบออนไลน์ไปยังเขตพื้นที่ โยงไปถึงโรงเรียนคุณภาพตนเองทำได้ดีแค่ไหน ให้โรงเรียนนั้นมาร่วมนำเสนอไปด้วย ก็จะเห็นความชัดเจนเพื่อให้ได้ข้อมูลเที่ยงตรง 2) ในรอบที่ 2 นอกจากประเมินออนไลน์แล้ว สามารถลงพื้นที่จริงได้หรือไม่ ก็จึงอยากให้เขตพื้นที่ได้เตรียมการและออกแบบ ซึ่งผลของการประเมินต้องส่งผลต่อการบริหารงบประมาณ บริหารคน และบริหารประสิทธิภาพของเรา เพราะเราต้องการให้ผลผลิตที่ตัวนักเรียนเกิดผลสภาพจริง แต่ลดเรื่องเอกสาร
สุดท้าย นายอัมพร พินะสา ได้เน้นย้ำว่า การประเมินเป็นเครื่องมือที่สำคัญ มีความจำเป็นและต้องมีประสิทธิภาพ โดยเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านจากระบบการประเมินจากกระดาษมาสู่การทำในลักษณะเชิงประจักษ์ ลดภาระเรื่องกระดาษ แต่ส่งผลที่ตัวคุณภาพ ซึ่งจะสอดรับกับเกณฑ์ PA ได้
จากนั้นคณะวิทยากรจาก สพฐ. ได้กล่าวในรายละเอียดในแต่ละประเด็นต่อไป
- "แนวทางการบูรณาการ การติดตาม ประเมินผล ของ สพฐ. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566" โดย ดร.อนันต์ พันนึก ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
- "การเชื่อมโยงประเด็นการติดตาม ประเมินผลฯ ของ สพฐ. ในภาพรวม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566" โดย 1) ดร.รัตนา แสงบัวเผื่อน ผอ.สำนักติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน , 2) นางสาวลิลิน ทรงผาสุก ผอ.กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร , 3) ดร.สุรินทร์ มั่นประสงค์ ผอ.สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ และคณะ
- "การสร้างความเข้าใจการรายงานผลดำเนินงาน ในแต่ละส่วน" อาทิ ส่วนที่ 1 Quick Policy : QP ของ สพฐ. ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 , ส่วนที่ 2 Action Plan : AP ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
โดยการประชุมสร้างความเข้าใจฯ จัดประชุมระหว่างวันที่ 9 - 10 กุมภาพันธ์ 2566 ในรูปแบบออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน ZOOM
ดูภาพข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://photos.app.goo.gl/Avxgra2Svj6rxzWH6
(นวิน เข็มทอง นักประชาสัมพันธ์ สพป.มุกดาหาร)